วันจันทร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2553

การทำนาของคนไทย

การทำนาของคนไทยนั้นมีมานานๆๆมากแล้วเป็นอาชีพที่เรียกได้ว่าคู่บ้านคู่เมืองเลยทีเดียวครับ หรือที่เราเคยได้ยินกันว่าประเทศไทยเป็น "อู่ข้าว อู่น้ำ" นะครับ แต่ปัจจุบันผมว่าคำนี้อาจใช้ไม่ได้แล้วกับเมืองไทยก็ได้นะครับเพราะการทำนาข้าวของเราเหลือพื้นที่น้อยลงมาก สาเหตุก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ หรือรู้แต่แกล้งไม่รู้ก็ได้นะ เพราะผืนนาของเราได้กลายเป็นของนายทุนหรือของธนาคารไปเกือบหมดแล้ว ส่วนใหญ่ชาวนาของเรา ...ไม่ได้มีพื้นดินเป็นของตัวเองหรอกนะ (เช่าเค้าทำนาซะมากกว่านะ)รู้แล้วก็น่าเศร้าใจครับ แต่ก็นะ ชาวนาทุกคน..รวมถึงผมด้วยก็รักการทำนาครับจะให้เลิกจากอาชีพทำนา ก็ไม่รู้จะไปทำอารายกินกัน เพราะว่าการทำนามันอยู่ในสายเลือดสะแล้วสิ..
แต่ยังดีครับปัจจุบันนี้การทำนาไม่ค่อยลำบากลำบน (ลำแก้บน.เวลาฝนไม่ตก)นะครับเพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการทำนาเป็นอย่างมาก แต่เอ..มาช่วยหรือมาซ้ำก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีส่วนมากต้องใช้ เงินทั้งนั้นนะครับ เทคโนโลยีทางด้านการเกษตรที่ว่านี้ก็ได้แก่ รถตีดิน รถพรวนดิน รถหว่านข้าว เครื่องหว่านข้าว เครื่องหว่านปุ๋ย รถตัดข้าว อันนี้เป็นต้นครับ
การทำนาสมัยใหม่ทำได้ง่ายครับ ไม่ต้องใช้แรงคนใช้ประสบการณ์สักเท่าไหร่ครับ อย่างเช่นการเริ่มทำนาก็ จ้างรถพรวนดิน หรือรถตีดินมาตีแทนการใช้รถไถครับ ค่าจ้างก็ตกประมาณ500บาท ต่อไรแล้วแต่พื้นที่ครับ ตีเสร็จก็ปรับหน้าดินอีกสักหน่อย เอาน้ำเข้า แล้วก็หว่านเมล็ดข้าวลงไปในนาครับ เมล็ดพันธุ์ข้าวเค้าก็มีขายแล้วครับ บอกแล้วว่าอะไรก็เป็นตังหมดครับ เป็นธุรกิจครับวงจรสำหรับชาวนา(น้อยใจนิดหน่อยนะ)เมือก่อนชาวนาจะติดแรงช่วยกันหว่านเมล็ดข้าวแต่เดี๋ยวนี้ ตัวใครตัวมันแล้วครับ เพราะมีเครื่องหว่านเมล็ดข้าวแล้ว หรือใครไม่อยากหว่านเมล็ด ก็มีเครื่องดำข้าวครับ มีทั้งเครื่องและข้าวขายให้พร้อมเสร็จสรรพ ชาวนาเดี๋ยวนี้จึงไม่ค่อยสนิทสนมกลมเกลียวกันแล้ว ส่วนใหญ่จะปีนเกลียวกันมากกว่า เคยได้อ่านข่าว ได้ยินบ่อยครั้งที่มีข่าวชาวนาฆ่ากันตายเพราะแย่งน้ำกันทำนา อันนี้ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งครับ

การทำนา

1111111111111111111111111111111111